วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2561

Learning log 13

Wednesday, November 21, 2018

the knowledge gained


                 อาจารย์มีโปรแกรมการทำวิดีโอมาแนะนำ โดยอาจารย์ให้ทำวิดีโอเกี่ยวกับกิจกรรมที่ไปจัดมาอาทิตย์ที่แล้ว นั่นคือโปรแกรม www.biteable.com


                อาจารย์ให้เอาความคืบหน้าของแผนผังความคิดในเรื่องหน่วยที่แต่ละกลุ่มศึกษามาส่ง พร้อมแผนการสอนกิจกรรม 6 หลักโดยมีหัวข้อดังนี้
1.วิธีการคิด : การเขียนแผน
1.1 องค์ประกอบ : ชื่อ ลักษณะ(สี ส่วนประกอบ ขนาด)
1.2 หน้าที่ของชาวพุธ : การดูแลรักษา สิ่งที่ไม่ควรทำ สิ่งที่ควรทำ
1.3 ประโยชน์ 
1.4 ข้อควรระวัง/โทษ


กลุ่มของดิฉันเลือก หน่วย ยานพาหนะ มีรายละเอียดดังนี้





1.ประเภทของยานพาหนะ ได้แก่
- บนบก
- บนน้ำ
- บนอากาศ

2.ลักษณะของยานพาหนะ ได้แก่ 
- สี
- ขนาด
- รูปทรง
- ภาพประกอบ
3.การดูแลรักษายานพาหนะ ได้แก่
- แลรักษาความสะอาดและหมั่นทความสะอาด
-  ตรวจเช็คเครื่องยนต์ก่อนการใช้งาน

4.ประโยชน์ของยานพาหนะ ได้แก่
ช้ในการเดินทาง
- ใช้ในการขนส่ง
- ใช้ในการประกอบอาชีพ

5.ข้อควรระวังและการปฏิบัติการใช้งาน
- อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ
- ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ
- ไม่ซ้อนเกิน 2 คน
- ควรสวมใส่หมวกกันน็อค
- ควรคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง

แผนกิจกรรม 6 หลัก

วันจันทร์  : กิจกรรมเกมการศึกษา
 เรื่อง..ประเภทของยานพาหนะ

วันอังคาร  : กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์
 เรื่อง..ลักษณะของยานพาหนะ

วันพุธ  : กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
เรื่อง..การดูแลรักษายานพาหนะ

วันพฤหัส  : กิจกรรมเสริมประสบการณ์
 เรื่อง..ประโยชน์ของยานพาหนะ

วันศุกร์ : กิจกรรมกลางแจ้ง
 เรื่อง..ข้อควรระวังและการปฏิบัติการใช้งาน

Self evaluation

: พยายามตั้งใจฟังสิ่งที่อาจารย์บอกให้ไปเพิ่มหรือแก้ไข และช่วยเพื่อนทำงานกลุ่มค่ะ ให้ความร่วมมือในการเรียนในห้องเรียน

Evaluate friends

: เพื่อนๆตั้งใจฟังสิ่งที่อาจารย์แนะนำ และบอกให้ไปแก้ไข

Evaluate the teacher

: อาจารย์อธิบายวิธีการเขียนแผนผังความคิด และการเขียนแผนกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม และแผนการจัดประสบการณ์สอนให้เด็กปฐมวัยได้ละเอียดค่ะ 


Learning log 12

Wednesday, November 14, 2018

The knowledge gained


        วันนี้เป็นการไปจัดโครงการ "บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย" ที่มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมซอยเสือใหญ่อุทิศ กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์มีทั้งหมด 5 ฐาน ได้แก่ 

ฐานที่ 1 กิจกรรม "ลูกโป่งพองโต"




ฐานที่ 2 กิจกรรม "ลาวาปะทุ ภูเขาไฟระเบิด"



ฐานที่ 3 กิจกรรม "Shape Bub-Bub Bubble"



ฐานที่ 4 กิจกรรม "ปั๊มขวดและลิปเทียน"



ฐานที่ 5 กิจกรรม "เรือดำน้ำ"




เริ่มการทดลอง กิจกรรมของกลุ่มดิฉันคือ "ปั๊มขวดและลิปเทียน"


1.ช่วยกันเตรียมอุปกรณ์






2.สมาชิกในกลุ่มช่วยกันร้องเพลงเก็บเด็ก




3.ก่อนเริ่มการทดลอง ถามเด็กๆว่าเห็นอะไรบนโต๊ะบ้าง




4.ตั้งปัญหาว่า ถ้าน้ำขวดที่ร้อนมาคว่ำลงบนจานน้ำสีจะเกิดอะไรขึ้น และถ้านำเทียนที่จุดไฟวางลงบนจานน้ำสีแล้วนำแก้วมาครอบจะเกิดอะไรขึ้น

5.ลงมือทำการทดลอง โดยให้เด็กได้มรส่วนร่วมในการทดลองนี้ด้วย




6.ให้เด็กๆสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น




7.ถาามประสบการณ์เดิมเด็กๆ ว่ามีใครรู้บ้างว่าทำไมน้ำจึงลอยเข้าไปอยู่ในขวดได้ และทำไมเทียนจึงดับ






8.สรุปผลการทดลองให้เด็กๆฟัง พร้อมมีรูปภาพประกอบ




: สาเหตุที่น้ำเข้าไปอยู่ในขวดได้ก็เพราะว่าความร้อนจากขวดทำให้อากาศที่อยู่ข้างในลอยตัวขึ้นสูง และน้ำสีที่อยู่ในจานจึงเข้าไปแทนที่อากาศ




: สาเหตุที่เทียนดับ เพราะว่าเมื่อนำแก้วไปครอบแล้วทำให้อากาศที่อยู่ข้างในแก้วค่อยๆหมดไป
 เทียนจึงดับ


Self evaluation

: มีความเตรียมพร้อมในการไปทำกิจกรรม เป็นวิทยากรหลักในการดำเนินการทดลองค่ะ




Evaluate friends

: เพื่อนๆมีความเตรียมพร้อมในการจัดกิจกรรม อุปกรณ์ครบ และแบ่งหน้าที่กันได้ดีค่ะ มีความสุขกับการได้จัดกิจกรรมให้น้องๆ

Evaluate the teacher 

: อาจารย์มีความตั้งใจที่จะพานักศึกษาออกไปจัดกิจกรรม และอาจารย์คอยแนะนำอยู่ตลอด
อาจารย์ร่วมเดินเท้าไปกับนักศึกษาเพื่อไปที่ซอยเสือใหญ่ค่ะ สุดท้ายอาจารย์น่ารักเลี้ยงส้มตำนักศึกษาด้วยค่ะกลุ่มละ 1 ชุด






Learning log 10

Wednesday, November 7, 2018

The knowledge gained

         
             เป็นการนำเสนอวิดีโอการทดลองวิทยาศาสตร์ ของแต่ละกลุ่มที่ได้รับมอบหมายให้ไปถ่ายวิดีโอขั้นตอนการทดลองมาคร่าวๆ

กิจกรรมการทดลอง "ปั๊มขวดและลิปเทียน"



สิ่งที่ต้องแก้ไข มีดังนี้
  1. อ่านขั้นตอนการทดลองก่อนแล้วใช้ไม้ชี้ตาม จากนั้นจึงเริ่มทำการทดลองไปทีละขั้นตอน
  2. การทำสัญลักษณ์ระบุไว้ที่ขวดเปล่าที่จะเทน้ำร้อนใส่ และการเขียนชื่อติดไว้ที่อุปกรณ์ เพื่อให้เด็กได้สังเกต และเกิดความชัดเจนมากขึ้น
  3. การตั้งประเด็นปัญหาเพื่อกระตุ้นให้เด็กเกิดสมมติฐาน
  4. การตั้งสมมติฐาน  4.1. ขวดน้ำที่ร้อนเมื่อคว่ำลงไปในจานสีจะเกิดอะไรขึ้น 4.2. ถ้าจุดเทียนแล้วนำไปวางลงบนจานน้ำสีและนำแก้วมาครอบจะเกิดอะไรขึ้น แล้วถามความคิดของเด็กๆว่า "ทำไมเทียนจึงดับ"  "ทำไมน้ำจึงลอยขึ้นมาบนขวดได้" 
  5. การพูดสรุป การทดลองที่สอง คือ การจุดเทียน : ความร้อนทำให้อากาศลอยสูงขึ้นน้ำจึงเข้าไปแทนที่ออกซิเจนที่อยู่แก้วก็เริ่มหมดไปเทียนจึงดับ



Self evaluation

: เข้าเรียนตรงเวลา มีความพร้อมในการนำเสนองานของกลุ่มตัวเอง จดบันทึกสิ่งที่กลุ่มตัวเองต้องแก้ไขตามที่อาจารย์บอกค่ะ 

Evaluate friends

: เพื่อนเตรียมความพร้อมในการนำเสนอวิดีโอของกลุ่มตัวเองมาดีค่ะ แต่ของแต่ละกลุ่มยังต้องมีสิ่งที่ต้องปรับปรุง และแก้ไขให้ถูกต้องตามกระบวนการที่อาจารย์ได้บอกไว้ค่ะ

Evaluate the teacher

: อาจารย์แนะนำการพูดขั้นตอนของกิจกรรมให้นักศึกษานำไปปรับใช้ให้ถูกต้อง และพูดเสนอแนะรายละเอียดของการทดลองให้นักศึกษาได้นำมาเพิ่มในการทดลองของตนเองเพื่อความสมบูรณ์แบบค่ะ




Learning log 11

Thursday, November 8, 2018

The knowledge gained

           
            อาจารย์ให้นักศึกษาชาวยกันเขียนแผนผังการจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยมากลุ่มละ 1 หน่วยการเรียนรู้ โดยแบ่งออกเป็น 5 วัน จันทร์-ศุกร์ ตามหลักกิจกรรม 6 หลัก ได้แก่ กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ กิจกรรมสร้างสรรค์ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ กิจกรรมกลางแจ้ง กิจกรรมเกมการศึกษา และกิจกรรมเสรี

 กลุ่มของดิฉันเลือกหน่วย "ยานพาหนะ"




โดยมีรายละเอียด ดังนี้

หน่วยยานพาหนะ
1.ความหมาย 
          วัตถุหรือสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายขนส่งไปได้ซึ่งสร้างขึ้นโดยมนุษย์

2.ประเภทของยานพาหนะ 
     2.1 ทางบก : รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน รถไฟ รถบรรทุก
     2.2 ทางน้ำ : เรือ (เรือหางยาว เรือประมง เรือสำเภา) เจ็ทสกี 
     2.3 ทางอากาศ : เครื่องบิน จรวด เฮลิคอปเตอร์
3.การใช้งาน
     3.1 น้ำมัน
     3.2 ก๊าซธรรมชาติ

4.การดูแลรักษา
     4.1 ตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ก่อนการใช้งาน
     4.2 ดูแลทำความสะอาดและบำรุงรักษายานพาหนะเป็นประจำ
     4.3 นำยานพาหนะเข้าจอดเก็บในสถานที่จอดเก็บทันทีหลังการใช้งาน

5.ประโยชน์ของยานพาหนะ
     5.1 ใช้ในการเดินทาง
     5.2 ใช้ในการขนย้ายสิ่งของ

6.โทษของยานพาหนะ
     6.1 อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุหากใช้งานโดยไม่ระมัดระวัง
     6.2 ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ


Self evaluation

: เข้าเรียนตรงเวลาค่ะ ให้ความร่วมมือกับเพื่อนในการทำงานกลุ่ม และส่งงานตามเวลาที่อาจารย์กำหนดค่ะ

Evaluate friends

: เพื่อนตั้งใจฟังงานที่อาจารย์มอบหมาย และช่วยกันตั้งใจทำงานค่ะ

Evaluate the teacher

: อาจารย์มอบหมายงานกลุ่มพร้อมกับอธิบายรายละเอียดของงานให้นักศึกษาฟังค่ะ


Learning log 9

Wednesday, October 24, 2018

The knowledge gained

               อาจารย์อธิบายรายละเอียดการที่จะจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ให้กับเด็ก ต้องดูจาก
1.สาระที่ควรเรียนรู้
2.ประสบการณ์เรียนรู้ (รอบตัวเด็ก สิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็ก บุคคลและสถานที่ และธรรมชาติรอบตัวเด็ก)
การใช้เทคนิคคำถาม ที่ทำให้เด็กได้คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ เพื่อเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมมาสู่ชีวิตประจำวัน
3.การประเมินเด็ก ต้องดูจาก (ใช้วิธีการสนทนา-ซักถาม การให้เด็กวาดรูปสะท้อนสิ่งที่เด็กได้รับ และการสังเกตการทดลอง)

              เพื่อนคนที่ยังไม่ได้นำเสนอการทดลองวิทยาศาสตร์ (เดี่ยว) ออกมานำเสนอการทดลองของตนเองโดยการเปิดวิดีโอที่อาขจารย์ให้ไปถ่ายมาให้เพื่อนดู

กิจกรรมที่ 16 เรื่อง..ปริมาณน้ำในแก้วเท่ากันหรือไม่
ปัญหา : จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเทน้ำใส่ลงไปในภาชนะที่ต่างกัน
ขั้นตอนการทดลอง :
  1. หาภาชนะที่มีขนาดต่างกันมา 3 ขนาด
  2. ใส่น้ำลงไปในภาชนะทั้ง 3 ขนาด โดยใช้แก้วตวงเป็น 1 แก้วเท่ากัน
  3. ให้เด็กๆสังเกตการเปลี่ยนแปลง
สรุปผลการทดลอง : น้ำในภาชนะทุกใบ มีปริมาณน้ำที่เท่ากันเพราะใช้ที่ตวงเดียวกันในการตวงน้ำและทใส่แก้วทั้ง 3 ขนาด

กิจกรรมที่ 17 เรื่อง..ลูกข่างหลากสี
ปัญหา : ถ้าหมุนลูกข่างแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ขั้นตอนการทดลอง :

  1. ตัดกระดาษเปษวงกลม ติดลูกปิงปองให้อยู่จุดศูนย์กลางของแผ่นวงกลม
  2. ระบายสี ตกแต่งให้สวยงาม
  3. ทดลองเล่น และให้เด็กๆสังเกตสีที่อยู่บนแผ่นวงกลมว่ามีสีอะไรบ้าง

สรุปผลการทดลอง : เมื่อหมุนลูกข่างหลากสีแล้วจะเห็นเพียงสามสีที่เป็นแม่สีเเค่นั้น

กิจกรรมที่ 18 เรื่อง..เครื่องชั่งน้ำหนักจากไม่เเขวนเสื้อ
ปัญหา : ถ้าใส่ของลงไปในตระกร้าทั้งสองจะเกิดอะไรขึ้น
ขั้นตอนการทดลอง :

  1. นำไม้แขวนเสื้อมา 1 ไม้ และนำแก้วน้ำผูกติดกับไม้แขวนเสื้อทั้งสองฝั่ง
  2. นำสิ่งของสองอย่างที่มีขนาด น้ำหนักต่างกันใส่ลงไปในแก้วน้ำทั้งสองฝั่ง
  3. สังเกตการเปลี่ยนแปลงของแก้วน้ำว่าเบี่ยงไปทางไหนมากที่สุด

สรุปผลการทดลอง : สิ่งของทุกย่างมีน้ำหนักที่แตกต่างกันไป

กิจกรรมที่ 19 เรื่อง..เรือแรงลม
ปัญหา : ถ้าเราเป่าลมใส่เข้าไปในรูแกนกลางดาษทิชชู่จะเกิดอะไรขึ้น
ขั้นตอนการทดลอง :

  1. นำถ้วยโฟมมาเจาะรูตรงกลาง
  2. นำแกนกระดาษทิชชู่มาติดตรงที่เจาะรูไว้
  3. ทดลองเป่าลมเข้าไปในรูกระดาษทิชชู่

สรุปผลการทดลอง : เมื่อเป่าลมเข้าไปในรูทำให้เคลื่อนที่ได้ เพราะแรงกดดันจากลมที่เป่าเข้ารู

Self evaluation

: วันนี้ดิฉันไม่ได้มาเรียนค่ะ เพราะกลับต่างจังหวัด แต่ดิฉันก็ติดตามคอยทำงานส่งอาจารย์ให้ครบทุกคนค่ะ

Evaluate friends

: -

Evaluate the teacher

: -

Learning log 8

Wednesday, October 17, 2018

The knowledge gained

                วันนี้อาจารย์ให้แต่ละกลุ่มจัดทำโครงการวิทยาศาสตร์ โดยเลือกกิจกรรมจากกลุ่มตัวเองมา 1 กิจกรรม เพื่อจะนำไปจัดกิจกรรมให้เด็กๆที่ซอยเสือใหญ่ โดยมีหลักการในการเขียนโครงการ ดังนี้
1.ชื่อโครงการ
2.หลักการและเหตุผล
3.วันที่/เวลา/สถานที่
4.งบประมาน
5.ตารางการทำกิจกรรม
6.วิธีการประเมิน
7.แบ่งหน้าที่ : กลุ่มที่ทำรูปแบบ วิทยากรประจำกลุ่ม

             ซึ่งกิจกรรมที่แต่ละกลุ่มเลือกมานั้น ต้องเป็นเรื่องที่สนุกสนาน น่าสนใจ และให้เด็กได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมมากที่สุด โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.วัตถุประสงค์
2.วัสดุ/อุปกรณ์
3.ขั้นตอน

กิจกรรมที่แต่ละกลุ่มเลือกมาได้แก่

ฐานที่ 1 กิจกรรม "ลูกโป่งพองโต"
ฐานที่ 2 กิจกรรม "ลาวาปะทุ ภูเขาไฟระเบิด"
ฐานที่ 3 กิจกรรม "Shape Bub-Bub Bubble"
ฐานที่ 4 กิจกรรม "ปั๊มขวดและลิปเทียน"
ฐานที่ 5 กิจกรรม "เรือดำน้ำ"


กลุ่มของดิฉันค่ะ "ปั๊มขวดและลิปเทียน"
               


Self evaluation

: เข้าเรียนตรงเวลาค่ะ ตั้งใจทำงานที่อาจารย์มอบหมายให้และช่วยเพื่อนทำงานกลุ่ม และงานห้องด้วยค่ะ


Evaluate friends



: มีเพื่อนบางส่วนเข้าเรียนสายค่ะ แต่เพื่อนๆก็ตั้งใจทำงานตามที่อาจารย์มอบหมาย 


Evaluate the teacher

อาจารย์คอยแนะนำและอธิบายรายละเอียดในการจัดโครงการให้กับนักศึกษา เพื่อที่จะให้นักศึกษาสามารถทำโครงการออกมาได้ดีและถูกต้องค่ะ


วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Learning log 7

Wednesday, October 10, 2018

The knowledge gained



สัปดาห์นี้เป็นการนำเสนอกิจกรรม "บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย" ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว




กิจกรรมที่ 11 เรื่อง..ฟองสบู่



นางสาวทิพยวิมล นวลอ่อน 
ปัญหา : ถ้านำน้ำยาล้างจานกับน้ำเปล่าผสมกันเด็กๆคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ขั้นตอน 
  1. เทน้ำใส่กะละมัง 1/4 ของขวดน้ำ และใส่น้ำยาล้างจานลงไป 5 ช้อน ผสมให้เข้ากัน
  2. ดัดลวดเป็นรูปทรงต่างๆ เช่น วงกลม สี่เหลี่ยม หัวใจ
  3. นำลวดที่ดัดเป็นรูปทรงต่างๆมาพันเข้ากับลวดกำมะหยี่
  4. นำลวดที่พันเสร็จแล้ว มาจุ่มลงน้ำยาล้างจานที่ผสมไว้ แล้วลองเป่าเบาดูว่าฟองที่ออกมานั้นจะเป็นรูปทรงตามที่ดัดลวดไว้หรือเปล่า
สรุป : ฟองที่ออกมานั้นเป็นรูปทรงวงกลม ไม่ว่าจะเป่าจากหัวใจหรือสี่เหลี่ยมก็ตาม เพราะพื้นผิวของฟองสบู่จะเป็นชั้นเหลวบางๆ ซึ่งมีแรงตึงผิวคอยดึงให้ฟองสบู่คคงรูปได้ ฟองสู่จะใช้หลักของแรงตึงผิวเพื่อให้เกิดรูปทรงที่มีพื้นที่ผิวน้อยที่สุด


กิจกรรมที่ 12 เรื่อง..ลูกโป่งพองโต



นางสาวเพ็ญประภา บุญมา 
ปัญหา : จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อนำเบคกิ้งโซดากับน้ำส้มสายชูผสมกัน
ขั้นตอน : นำเบคกิ้งโซดาใส่ลงในลูกโป่ง ต่อมานำน้ำส้มสายชูใส่ลงในขวดน้ำครึ่งขวด แล้วนำลูกโป่งที่มีผงเบคกิ้งโซดาอยู่นั้นมาสวมเข้ากับปากขวดน้ำที่มีน้ำส้มสายชู จากนั้นให้เด็กสังเกตปฏิกิริยาที่จะเกิดขึ้น
สรุป : ลูกโป่งเกิดการพองโตขึ้น เพราะเมื่อผงเบคกิ้งโซดาผสมกับน้ำส้มสายชูแล้วจะเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จึงทำให้ลูกโป่งพองขึ้นนั่นเอง



กิจกรรมที่ 13 เรื่อง..การแยกเกลือกับพริกไทย


นางสาวจีรนัน ไชยชาย
ปัญหา : จะเกิดอะไรขึ้น ถ้านำช้อนที่ถูกับผ้ามาวางใกล้ๆกับเกลือและพริกไทย
ขั้นตอน : นำเกลือกับพริกไทยเทลงในจานผสมกัน นำช้อนถูกับผ้าที่มีเนื้อผ้านุ่มๆ และนำใช้ช้อนวางลงใกล้กับจานที่มีเกลือและพริกไทย 
สรุป : พริกไทยติดขึ้นมากับช้อน เพราะช้อนมีประจุลบ ส่วนผ้ามีประจุบวก จึงทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตและเคลื่อนที่ไป ทำให้ดูดพริกไทยขึ้นมาได้ ประจุเหมือนกันจะผลักกัน ส่วนประจุต่างกันจะดึงดูดกัน




กิจกรรมที่ 14 เรื่อง..ภาพซ้ำไปซ้ำมา



นายปฏิภาน จินดาดวง
ปัญหา : เราจะสามารถต่อภาพได้อย่างไรให้ภาพติดกันโดยไม่มีช่องว่าง
ขั้นตอน : นำรูปนกที่ระบายสีเรียบร้อยแล้วมาวางเรียงต่อกัน โดยที่วางนกสลับสีกัน 
สรุป : ได้ฝึกทักษะการสังเกตรายละเอียดของรูปภาพ 


กิจกรรมที่ 15 เรื่อง..ระฆังดำน้ำ



นางสาวอรุณวดี ศรีจันดา
ปัญหา : จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเอาขวดครอบเรือไว้แล้วกดลงไปในน้ำ
ขั้นตอน : นำขวดครอบกับเรือแล้วกดลงไปในน้ำ เปิดฝาออกแล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลง
สรุป : เรือไม่เปียก เพราะข้างในขวดมีอากาศเมื่อเปิดฝาออกแล้วอากาศจะลอยขึ้นมาแล้วทำให้น้ำเข้าไปแทนที่ อากาศก็จะดันเรือขึ้นมาด้วยทำให้เรือไม่เปียก



Self evaluation

: เข้าเรียนตรงเวลาค่ะ แต่งตัวเรียบร้อยตั้งใจฟังเพื่อนทำการทดลอง และคอยจดบันทึกตามตลอดค่ะ ช่วยเพื่อนตอบคำถามกับอาจารย์ในห้องค่ะ

Evaluate friends

: เพื่อนมีความเตรียมพร้อมในการทำการทดลองค่ะ

Evaluate the teacher

: อาจารย์ช่วยสรุปผลการทดลองของเพื่อนๆให้ตลอดเลยค่ะ เพื่อความถูกต้องของการทดลองนั้น และเพื่อเข้าใจได้ง่ายขึ้น นักศึกษาคนไหนไม่มีอุปกรณ์การทดลองชิ้นใด อาจารย์ชะช่วยหาอุปกรณ์ในการทำการทดลองให้ด้วยค่ะ


วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Learning log 6

Wednesday, October 03, 2018

The knowledge gained

             อาทิตย์นี้เป็นการนำเสนอการจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์ "กิจกรรม บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย"

1.การเตรียมอุปกรณ์ ผู้สอนต้องจัดเตรียมอุปกรณ์มาให้พร้อม จัดอุปกรณ์ใส่ภาชนะให้เรียบร้อย จัดเรียงอุปกรณ์จากเล็กไปหาใหญ่  ถ้าอุปกรณ์ชนิดเดียวกันมี 2 ชิ้นขึ้นไปให้ติดหมายเลขให้ชัดเจน 
2.การแนะนำอุปกรณ์ ผู้สอนถามเด็กๆว่ารู้จักอุปกรณ์ไหนบ้างที่วางอยู่บนโต๊ะ และคอยบอกเพิ่มเติม
3.การถามประสบการณ์เดิม เพื่อให้เด็กได้มีส่วนร่วมผู้สอนถามเด็กๆว่า อุปกรณ์ที่อยู่บนโต๊ะสามารถนำมาทำอะไรได้บ้าง
4.เข้าสู่กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ผู้สอนเริ่มทำการทดลองและตั้งปัญหากับเด็กๆว่า "จะเกิดอะไรขึ้น" และมีแผ่นชาร์ทเป็นคำอธิบายพร้อมรูปภาพของการทดลองเพื่อให้เด็กเข้าใจได้ง่ายขึ้น
5.สรุปองค์ความรู้ในการจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์ ผู้สอนพูดคุยถึงปัญหาและสมมติฐานของการทดลองและอาจจะมีใบงานให้เด็กวาดรูปสรุปการทดลองที่ทำด้วยก็ได้






กิจกรรมที่ 1
นางสาวรุ่งฤดี โสดา เรื่อง..ปั๊มขวดลิปเทียน
ปัญหา : ขวดน้ำร้อนจะทำอะไรกับน้ำสีม่วง / เทียนที่จุดไฟจะทำอะไรกับน้ำสีม่วง
การทดลอง : นำน้ำร้อนมาใส่ไว้ในขวดแล้วเขย่าให้น้ำร้อนกระจายไปทั่วขวด จากนั้นเทน้ำร้อนออกและนำขวดเปล่าไปคว่ำลงจานที่มีน้ำสีม่วง จะทำให้น้ำสีม่วงไหลเข้ามาในขวดและมีลำดับสูงขึ้นเรื่อยๆ
สรุป : เพราะเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นอากาศก็จะลอยตัวสูงขึ้นไปบนขวดและทำให้น้ำดันเข้ามาแทนที่






กิจกรรมที่ 2 
นางสาวปริชดา นิราจรพจรัส เรื่อง..เมล็ดถั่วเต้นระบำ
ปัญหา : โซดากับน้ำเปล่าจะมาทำอะไรกับถั่วเขียวได้บ้าง
การทดลอง : มีแก้วสองใบใส่ถั่วเขียวลงไปในปริมาณเท่ากัน แก้วใบที่หนึ่งเทโซดาใส่ปรากฏว่าเมล็ดถั่วลอยขึ้นมาตามฟองอากาศของโซดาและหยุดเมื่อฟองหายไป ส่วนแก้วใบที่สองเทน้ำเปล่าลงไปปรากฏว่าไม่เกิดอะไรขึ้นเลย
สรุป : ในโซดามีแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีน้ำหนักเบากว่าน้ำจึงทำให้เมล็ดถั่วเกิดการลอยตัวขึ้นมาชั่วขณะ




กิจกรรมที่ 3
นางสาววัชรา ค้าสุกร เรื่อง..แรงตึงผิวของน้ำ
ปัญหา : น้ำในแก้วนำมาทำอะไรได้บ้าง
การทดลอง : เทน้ำใส่แก้วให้เต็มและจากนั้นใช้หลอดดูดน้ำขึ้นมาค่อยๆหยดลงไปในแก้วที่มีน้ำเต็มจนทำให้เห็นน้ำนูนขึ้นมาโดยที่น้ำไม่ล้น ทำแบบเดิมกับฝาขวดน้ำและเหรียญ 
สรุป : ในน้ำมีแรงตึงผิวจึงทำให้น้ำไม่ล้นออกมา และแรงตึงผิวของน้ำสามารถทำให้แมลงเดินบนน้ำได้ เช่น แมงมุมน้ำ ยุง แมลงปอ เป็นต้น




กิจกรรมที่ 4 
นางสาวปิยธิดา ประเสริฐสังข์ เรื่อง..แสงและเงา
ปัญหา : ไฟฉายกับแก้วน้ำนำมาทำอะไรได้บ้าง
การทดลอง : วางแก้วสองใบไว้บนโต๊ะจากนั้นใช้ไฟฉายส่องจะทำให้เกิดเงาด้านหลังแลแก้วมีขนาดเท่ากัน ถ้าวางแก้วใบที่หนึ่งกับแก้วใบที่สองห่างกันจากไฟฉายในระยะใกล้กับไกลจะทำให้เเก้วใบที่อยู่ห่างจากไฟฉายมีเงาที่เล็กกว่าแก้วที่อยู่ใกล้ไฟฉาย
สรุป : เมื่อส่องไฟฉายไปที่แก้ว แสงจะไปตกกระทบที่แก้วแล้วทำให้เกิดเงาขึ้น และที่แก้วใบที่ 1 มีขนาดใหญ่กว่าแก้วใบที่ 2 เพราะแก้วใบที่ 1 อยู่ใกล้แสงมากกว่าแก้วใบที่ 2 

กิจกรรมที่ 5
นางสาวสุดารัตน์ อาสนามิ เรื่อง..การสะท้อน
ปัญหา : กระจกเงากับกระดาษถ้าเอามาส่องแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
การทดลอง : นำกระดาษที่มีรูปภาพอยู่ครึ่งหนึ่งมาส่องกับกระจกเงาโดยวางให้ตั้งฉากกันกับรูปภาพจะทำให้เกิดการสะท้อนและเกิดภาพเสมือนจริงขึ้น
สรุป : เพราะกระจกเงาทำให้เกิดรูปสมมาตร และแกนสมมาตรคือตัวกระจกนั่นเอง เมื่อนำวัตถุมาวางไว้หน้ากระจกจะเกิดรูปเสมือนจริง แต่ถ้าเป็นกระจกเงาแบบพับนอกจากจะเกิดรูปเสมือนจริงแล้ว ยังทำให้เห็นหลายๆรูปเนื่องจากกระจกทั้งสองบานสะท้อนกันเอง ส่วนการเห็นจำนวนรูปนั้นขึ้นอยู่กับมุมกระจกนั่นเอง



กิจกรรมที่ 6 
นางสาวกฤษณา กบขุนทด เรื่อง..ไหลแรงหรือไหลค่อย
ปัญหา : เมื่อนำน้ำใส่ขวดที่เจาะรูแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
การทดลอง : นำขวดเปล่ามาเจาะรู 2 รู ข้างบนกับข้างล่าง จากนั้นปิดเทปกาวไว้แล้วเติมน้ำให้เต็มขวด เสร็จแล้วให้ดึงเทปกาวออกและสังเกตการไหลของน้ำว่ารูไหนไหลแรงหรือไหลค่อย
สรุป : สาเหตุที่รูข้างล่างไหลแรงกว่าก็เพราะว่า รูล่างมีความดันอากาศต่ำจึงทำให้ไหลแรงกว่ารูข้างบน


กิจกรรมที่ 7
นางสาวสุชัญญา บุญญะบุตร เรื่อง..ดินน้ำมันสู่ยอดปราสาท
ปัญหา : ดินน้ำมันสามารถนำไปทำอะไรได้บ้าง
การทดลอง : ให้เด็กๆปั้นดินน้ำมันเป็นรูปทรงต่างๆ จากนั้นใช้เส้นด้ายตัดดินน้ำมันที่เด็กปั้นจะได้หน้าตัดรูปทรงต่างๆ และสามารถนำไปทำเป็นตัวปั้มก็ได้โดยการนำไปจุ่มกับสี และมาปั้มลงกระดาษก็จะเกิดเป็นรูปทรงตามหน้าตัดที่ทำ
สรุป : ได้ทักษะการปั้น ศิลปะ และคณิตศาสตร์ 

กิจกรรมที่ 8
นางสาวประภัสสร แทนด้วง เรื่อง..ท้วงทำนองตัวเลข
ปัญหา : การนับจำนวนสามารถทำได้อย่างไรบ้าง
ขั้นตอนกิจกรรม : ตัดกระดาษเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส พับมุมทั้ง 4 มุมเข้าหาจุดศูนย์กลาง พลิกอีกด้านขึ้นมาทำแบบเดิม จากนั้นระบายสีข้างในให้ครบทุกด้าน เสร็จแล้วคลี่ออกให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมและใช้นิ้วสอดเข้าไปเพื่อที่จะให้ขยับได้ และให้เด็กๆทายว่าถ้าขยับ 10 ครั้งเวลาเปิดออกมาจะตรงกับสีใด
สรุป : ได้ฝึกการนับเลขและการคาดคะเน




กิจกรรมที่ 9
นางสาวสุภรทิพย์ ดำขำ เรื่อง..พับและตัด
สมมติฐาน : เมื่อหยดสีลงบนกระดาษแล้วจะเกิดอะไรขึ้น
การทดลอง : พับครึ่งกระดาษให้เท่ากัน คลี่กระดาษออกหยดสีลงบนกระดาษจากนั้นให้พับและกดไว้ให้แน่น พอคลี่กระดาษออกก็จะเดิดเป็นรูปทรงต่างๆ 
สรุป : การดึงด้ายทำให้เกิดการกระจายตัวของสี และเกิดเป็นรูปต่างๆขึ้นมานั่นเอง






กิจกรรมที่ 10
นางสาวชนนิการณ์ วัฒนา เรื่อง..แสง สีและการมองเห็น
ปัญหา : แผ่นใสที่มีสีแดงและสีเขียวนำมาทำอะไรกับรูปวงกลมที่ทีสีต่างๆได้บ้าง
การทดลอง : วาดรูปลงบนแผ่นกระดาษ ระบายสีโดยใช้สี แดง เขียว น้ำเงิน จากนั้นใช้แผ่นใสที่มีสีแดงกับสีเขียวมาวางทับจะทำให้รูปที่ระบายด้วยสีแดงกับเขียวหายไป 
สรุป : เพราะสีที่เหมือนกันเมื่อนำมาทับกันแล้วจะไม่สามารถมองเห็นได้ เหมือนสีที่ต่างกัน


Self evaluation

: วันนี้เข้าเรียนตรงเวลาค่ะ และตั้งใจเรียนให้ความร่วมมือกับอาจารย์และช่วยเพื่อนตอบคำถามค่ะ 
เตรียมอุปกรณ์บ้านนักวิทยาศาสตร์มาทดลองในห้องค่ะ


Evaluate friends

: วันนี้เข้าเรียนประมาน 10 คน เพื่อนส่วนหนึ่งไปรับทุนการศึกษาและที่เหลือขาดเรียนค่ะ ส่วนคนที่มาก็เตรียมพร้อมในการทดลองบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยค่ะ

Evaluate the teacher

: อาจารย์คอยช่วยแก้ปัญหาในการหาอุปกรณ์ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเริ่มการทดลองและขั้นตอนการปฏิบัติในการทดลองดีค่ะ

วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2561

Learning log 5

Wednesday, Sebtember 19, 2018


The knowledge gained

                 อาทิตย์นี้อาจารย์แจกใบกิจกรรมบ้านวิทยาศาสตร์น้อยและให้นักศึกษาสรุปกิจกรรมของตัวเองลงในกระดาษ โดยแต่ละแผ่นก็จะมีหลายกิจกรรมและให้เราเลือกมาเพียงกิจกรรมเดียวของดิฉันก็จะเป็น คณิตศาสตร์ 





การสะท้อน : วาดรูปอีกครึ่งที่หายไป

เรื่อง...กระจกเงาทำได้ทุกอย่าง

วัสดุอุปกรณ์                                                                
- กระจกเงา                                                                  
- รูปที่ไม่สมมาตรจากหนังสือต่างๆ                               
- รูปสมมาตร เช่น รูปดาว รูปหัวใจ                                
- กระดาษ
- ดินสอ
- ไม้แท่งเล็กๆ

วัสดุอุปกรณ์ (หัวข้อกิจกรรมเพิ่มเติม)
- กระจกเงา 2 บาน
- เทปกาว
- สิ่งของต่างๆ เช่น ปากกา ไม้แขวนเสื้อ

ขั้นตอนการดำเนินการ
1) เริ่มต้นจากครูเลือกเด็กๆมายืนหน้าห้อง 1 คน ตั้งคำถามกับเด็กๆว่าในร่างกายมีจำนวน แขน ขา หู และตาจำนวนเท่าไหร่ โดยให้เด็กกางแขนออก จากนั้นครูขานตัวเลขให้เด็กๆเห็นว่าอวัยวะที่พูดถึงมีจำนวนอย่างละคู่ แล้วตั้งคำถามว่าถ้าแบ่งร่างกายออกเป็น 2 ส่วนเท่าๆกันโดยให้แต่ละส่วนมีแขน 1 ข้าง 
ขา 1 ขา ตา 1 ดวงและ หู 1 หู จะแบ่งอย่างไรและที่ตำแหน่งใด
2) ให้เด็ช่วยกันคิดว่าสมบัติของกระจกเงามีอะไรบ้าง เช่น ทำให้วัตถุที่ส่งบิดเบี้ยว สั้นลง 
เพิ่มจำนวนของวัตถุ ทำให้วัตถุสมบูรณ์ หรือทำให้เกิดภาพแปลกๆ
3) ครูแจกกระดาษให้นักเรียนแต่ละคน พับครึ่งจากนั้นคลี่ออก ให้เด็กวาดรูประบายสีเพียงครึ่งเดียว จากนั้นให้แลกรูปกับเพื่อน แล้วนำกระจกมาวางให้ตั้งฉากกับรอยพื้น จะเกิดรูปสมมาตรขึ้น ให้เด็กวาดรูปที่เห็นบนกระจกลงในกระดาษ และสันที่เกิดจากการพับคือ แกนสมมาตรนั่นเอง
* รูปในกระดาษด้านใดด้านหนึ่งคือรูปต้นแบบ และอีกด้านหนึ่งคือรูปที่เท่ากันทุกประการ

ผลจากการทำกิจกรรม
            กระจกเงาทำให้เกิดรูปสมมาตร และแกนสมมาตรคือตัวกระจกนั่นเอง เมื่อนำวัตถุมาวางไว้หน้ากระจกจะเกิดรูปเสมือนจริง แต่ถ้าเป็นกระจกเงาแบบพับนอกจากจะเกิดรูปเสมือนจริงแล้ว ยังทำให้เห็นหลายๆรูปเนื่องจากกระจกทั้งสองบานสะท้อนกันเอง ส่วนการเห็นจำนวนรูปนั้นขึ้นอยู่กับมุมกระจกนั่นเอง
* สิ่งของบางชนิดต้องมีความสมมาตรกันจึงจะใช้งานได้ เช่น บันได เก้าอี้

กระบวนการทางวิทยาศาสตร์  แบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอนดังนี้
1.การตั้งประเด็น
2.การตั้งสมมติฐาน
3.การลงมือทดลอง (ทักษะทางวิทยาศาสตร์ สังเกต เก็บรวบรวมข้อมูล)
4.การสรุปผลการทดลอง (ตรวจสอบสมมติฐาน)
5.การอภิปรายผล


Self evaluation

: วันนี้แต่งกายเรียบร้อยและเข้าเรียนตรงเวลา รับผิดชอบงานที่อาจารย์มอบหมายให้ทำในห้องเรียน และให้ความร่วมมือกับอาจารย์ค่ะ




Evaluate friends

: เพื่อนๆตั้งใจทำงานที่อาจารย์มอบหมายให้ และมีความกระตือรือร้นในการทำงาน ประดิษฐ์สื่อจากวัสดุเหลือใช้



Evaluate the teacher

: อาจารย์ตรวจดูบล็อกและแนะนำองค์ประกอบของแฟ้มสะสมผลงานในส่วนที่ต้องเพิ่มเติมค่ะ



Science Teaching Media Summary


สรุป ทอร์นาโดมหาภัย


บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ตอน ทอร์นาโดมหาภัย

                ถามประสบการณ์เดิมของเด็กๆว่าพายุทอร์นาโดคืออะไร หลังจากนั้นก็ทดลองขั้นตอนการทำนำข้อต่อมาต่อกับขวดน้ำแดงจนแน่นแล้วนำขวดเปล่าอีกใบมาต่อด้สนที่เหลืออยู่ หลังจากนั้นก็ถามว่าถ้าพลิกขวดจะเกิดอะไรขึ้น แล้วทดลองพลิกดูน้ำก็ไหลลงไปอีกขวดน้อยและเกิดฟอง แล้วก็ถามเด้กว่าทำยังไงน้ำจะลงไป คำตอบคือบีบ ถ้าบีบข้างล่างน้ำจะไหลลงไปข้างล่าง แล้วเขาก็บอกวิธีโดยโยกขวดข้างบนแล้วน้ำไหลลง

ผลการทดลอง

             เมื่อพลิกขวดน้ำและตั้งไว้เฉยๆนำจะไม่ไหลงลงมาข้างล่างแสดงว่าในขวด มีอากาศอยู่เรามองเห็นได้ในรูปแบบฟองอากาศ พอบีบขวดข้างล่างจะสังเกตเห็นฟองอากาศลอยขึ้นไปยังด้านบนแล้วน้ำไหลลงมา เมื่อบีบขวดข้างล่างอากาศจะออกแรงผลักขึ้นไปยังขวดด้านบนทำให้ขวดด้านล่างมีพื้นที่ว่างน้ำ จึงไหลงมาได้ สำหรับการเกิดทอร์นาโดในขวดเกิดจากการเคลื่อนตัวของอากาศ ผ่านตาของน้ำวนขึ้นสู่ด้านบนน้ำจะหมุนไหลผ่านผิวด้านในขวดไปยังด้านล่าง

Research Summary

วิจัยเรื่อง

ความมุ่งหมายของการวิจัย 

ในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ตั้งความมุ่งหมายไว้ดังนี้
  1.  เพื่อศึกษาระดับทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยรวมและจำแนกรายทักษะ ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์ตามแนวคิดรูปแบบกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
  2. เพื่อเปรียบเทียบทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยรวมและจำแนกรายทักษะ ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์ตามแนวคิดรูปแบบกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
ความสำคัญของการวิจัย

            การวิจัยครั้งนี้ เป็นการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยการจัดประสบการณ์ตามแนวคิดรูปแบบกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนและเป็นแนวทางในการใช้วิธีการสอนและการจัดกิจกรรมให้ครู และผู้ที่เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัยนำไปพัฒนาทักษะด้าน อื่น ๆ ให้แก่เด็ก เพื่อส่งเสริมพัฒนาการและศักยภาพของเด็กปฐมวัยต่อไป

ประชากรที่ใช้ในการวิจัย

          ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้  คือ นักเรียนชาย–หญิง ที่มีอายุ 5–6 ปี ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2550 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย จำนวน 30 คน

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย

          กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชาย–หญิง ที่มีอายุ 5–6 ปี ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้น
อนุบาลศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2550 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
1 ห้องเรียน โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยการจับสลากนักเรียนชั้น
อนุบาลปีที่ จำนวน 30 คน

ตัวแปรที่ศึกษา

1) ตัวแปรต้น คือการจัดประสบการณ์ตามแนวคิดรูปแบบกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
2) ตัวแปรตาม ได้แก่ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 5 ทักษะ ประกอบด้วย
  1. การสังเกต
  2. การวัด
  3. การจำแนกประเภท
  4. การลงความเห็น
  5. การพยากรณ์
นิยามศัพท์เฉพาะ

เด็กปฐมวัย หมายถึง เด็กนักเรียนชาย–หญิง ที่มีอายุ 5–6 ปี ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2550 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หมายถึง กระบวนการในการศึกษาหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนหลัก คือ การตั้งคำถามหรือกำหนดปัญหา การสร้างสมมุติฐานหรือคาดการณ์คำตอบ การออกแบบวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์และแปลความหมายข้อมูล การลงข้อสรุปและการสื่อสารซึ่งกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ดังกล่าวนี้จะบูรณาการในการจัดประสบการณ์ในแต่ละวัน

ทักษะทางวิทยาศาสตร์ หมายถึง พฤติกรรมที่แสดงถึงความสามารถและความชำนาญในการเลือกใช้วิธีการที่ใช้ในการแสวงหาข้อมูลที่เกิดจากการปฏิบัติและฝึกฝนอย่างมีระบบโดยมีทักษะที่ต้องการส่งเสริม ดังนี้
            - การสังเกต หมายถึง ความสามารถการใช้ประสาทสัมผัสอย่างใดอย่างหนึ่งหรือ
หลายอย่างรวมกันได้ ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้นและสัมผัสผิวกายเข้าไปสัมผัสโดยตรงกับวัตถุหรือ
เหตุการณ์ เพื่อค้นหาข้อมูลซึ่งเป็นรายละเอียดของสิ่งนั้น
            - การวัด หมายถึง ความสามารถใช้เครื่องมือง่าย ๆ ที่เหมาะสมกับการวัด
การกะประมาณ การเปรียบเทียบ เพื่อบอกปริมาณสิ่งของต่าง ๆ รวมถึงการใช้อุปกรณ์ในการวัด
            - การจำแนกประเภท  หมายถึง ความสามารถในการวัด ด้วยการเรียง แยกหรือแบ่งสิ่งของต่าง ๆ รอบตัว ตามคุณลักษณะที่มีความเหมือน
            - การลงความเห็น  หมายถึง ความสามารถในการอธิบายหรือการตีความหมาย
ของสิ่งที่สังเกตได้
            - การพยากรณ์ หมายถึง ความสามารถในการคาดคะเนหรือการทำนายคำตอบ
โดยอาศัยข้อมูลที่ได้จากการสังเกตหรือข้อมูลจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ร่วมกับการสังเกต
ทักษะทั้ง 5 วัดได้จากแบบทดสอบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น

การจัดประสบการณ์ตามแนวคิดรูปแบบกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน  หมายถึง กิจกรรมที่ประยุกต์จากดำเนินงานจากรูปแบบของกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีโดยพิจารณาจากองค์ประกอบของกิจกรรมที่เหมาะสำหรับการจัดประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัย ดังนี้

-กิจกรรมการปลูกต้นไม้ เช่น พืชผักพื้นเมือง สมุนไพร ฯลฯ โดยการจัดกิจกรรมการเพาะปลูกพืชที่เด็กสนใจไว้ในโรงเรียนพร้อมทั้งเรียนรู้วิธีการดูแลรักษาและสังเกตการเจริญเติบโตของพืช
-การศึกษาสังเกตพันธุ์ไม้ โดยจัดกิจกรรมการศึกษาสังเกตลักษณะของพรรณไม้
จากลักษณะของ ใบ ดอก ผล และทำการบันทึกลงในสมุดที่พัฒนารูปแบบให้เหมาะสมกับเด็กปฐมวัยจากแบบสมุดบันทึกข้อมูลพันธุ์ไม้ตามแบบของงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
-กิจกรรมการใช้ประโยชน์จากพืช เช่น การวาดภาพทางพฤกษศาสตร์การประกอบอาหารจากพืช การประดิษฐ์สิ่งของเครื่องใช้ เครื่องประดับจากเศษวัสดุธรรมชาติการปฏิบัติการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ฯลฯ ที่จะส่งผลต่อการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยโดยใช้รูปแบบกิจกรรมบูรณาการหรือโครงงาน

สมมุติฐานในการวิจัย

     เด็กปฐมวัยหลังจากที่ได้รับการจัดประสบการณ์ตามแนวคิดรูปแบบกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนมีการเปลี่ยนแปลงของทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์แตกต่างจากก่อน
การจัดประสบการณ์

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

 ในการวิจัยครั้งนี้ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ
  1.  แผนการจัดประสบการณ์ตามแนวคิดกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
  2.  แบบทดสอบทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
การวิเคราะห์ข้อมูล

การวิเคราะห์ข้อมูลได้ดำเนินการดังนี้
  1. หาค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
  2. วิเคราะห์เปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยก่อนและหลังการจัดประสบการณ์ตามแนวคิดรูปแบบกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนสำหรับเด็กปฐมวัยเพื่อศึกษาการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยรวมและรายทักษะโดยใช้ค่าแจกแจง t แบบ Dependent Samples
สรุปผลการวิจัย
  1. ระดับทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยรวมและจำแนกรายทักษะสูงขึ้นกว่าก่อนการจัดประสบการณ์ตามแนวคิดรูปแบบกิจกรรมสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
  2. ทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยรวมและจำแนกรายทักษะ แตกต่างจากก่อนการทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และมีค่าเฉลี่ยสูงขึ้น